รูปแบบการใช้วสัดุอุปกรณ์ในงานทัศนศิลป์ของศิลปิน

รูปแบบการใช้วสัดุอุปกรณ์ในงานทัศนศิลป์ของศิลปิน

     ทัศนศิลป์ หมายถึง ศิลปะที่มองเห็นดว้ยสายตา สมัผสัจบั ตอ้งได้และกินพ้ืนที่ในอากาศ แบ่งออกเป็น

3 ประเภทคือจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ในระดบั ช้นั มธัยมศึกษาตอนตน้ ครูจะสอน

เฉพาะงานจิตรกรรมและประติมากรรมเท่าน้นั ส่วนงานสถาปัตยกรรมจะสอนในระดบั ช้นั มัธยมปลาย

1.1จิตรกรรม (Paining)

     หมายถึง การวาดเส้น (Drawing) และการระบายสี (Paining) เป็ นการถ่ายทอดจินตนาการและความ

งามบนพ้ืนระนาบ 2 มิติ โดยใช้ทัศนธาตุ(จุด เส้น รูปร่าง รูปทรง สี แสง เงา ) มาจัดองค์ประกอบศิลป์

ใหเ้กิดภาพลวงตา มคีวามต้ืน ลึกระยะใกล้ไกล มองเห็นเป็ น 3 มิติ

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดเส้น (Drawing)

     กระดาษวาดเขียน กระดาษรองเขียน ดินสอสีดำ ดินสอสี เกรยอง  ถ่านซาโคส ปากกา ยาลบ และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆตามความเหมาะสม

1)การวาดเส้น (Drawing)

     เป็นพื้นฐานของงานทัศนศิลป์ทุกแขนง ในสถาบันศิลปะทั่วโลกมักจะเริ่มต้นด้วยการศึกษาวิชาวาดเส้นเป็นพื้นฐาน ก่อนที่จะเรียนวิชาอื่นเพื่อนให้สามารถเขียนภาพ ร่างภาพ และสเก็ตช์ภาพต่างๆ ให้มีความเข้าใจในเรื่องของน้ำหนักแสงเงา สามารถแรงเงาภาพได้อย่างถูกต้องแม่นยำและสวยงาม เพื่อเป็นเพื้นฐานในการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ประเภทต่างๆ

2)การระบายสี (Painting)

     หมายถึง การใช้เทคนิคหรือกลวิธีการสร้างสรรค์ผลงาน ด้วยการใช้สีชนิดต่างๆ ระบายบนพื้นระนาบรองรับ และใช้วัสดุ อุปกรณ์เป็นตัวกลางช่วยสื่อในการถ่ายทอด เช่น พู่กัน แปรง เกรียง เป็นต้น

                                                               

                                                                                             การระบายสีน้ำมัน                                                                   การระบายสีชอล์ก

 

1.2 ประติมากรรม (Sculpture)

     หมายถึง การปั้น การแกะสลกั การหล่อ การทุบ ตีเคาะการเชื่อม การปะ ต่อเป็นการถ่ายทอดความงามเป็นลักษณะ 3 มิติ

1)การปั้น (Modeling) 

     ใชว้สัดุที่มีเนื้ออ่อนนิ่มในการขึ้นรูป เช่นดินเหนียวดินน้ำมัน ขี้ผึ้ง โดยการใช้

เครื่องมือในการปั้นช่วยทำให้เกิดเป็นรูปทรงที่มีคุณค่าทางความงามและคุณค่าทางประโยชน์ตามต้องการ

2)การแกะสลัก ( Carving ) 

     เป็นการสร้างประติมากรรม ในการใช้เครื่องมือช่วยในการตัดเอาส่วนที่ไม่ต้องการออก เพื่อให้เหลือรูปทรงตามต้องการ วัสดุที่ใช้ได้แก่ หินอ่อน ไม้ เทียนไข หินทรายปูนพลาสเตอร์โดยใชเ้ครื่องมือ ประเภท สิ่ว ค้อน เลื่อย และอุปกรณ์อื่นๆ

3)การหล่อ (Casting) 

     เป็นรูปแบบการเก็บรักษาแบบผลงานไว้ไม่ให้ชำรุดเสียหาย เป็นกระบวนการผลิตเป็นจำนวนมากๆ ตามต้องการด้วยการหล่อจากต้นแบบ วัสดุที่ใช้ในการหล่อจะต้องเป็นของเหลวและแข็งตัวได้เมื่อแห้ง เช่น ขี้ผึ้ง ปูนพลาสเตอร์ ปูนซีเมนต์ทองเหลือง ทองแดงทองคา เรซิ่น เทียนไข  และอุปกรณ์อื่นๆ

4)การทุบ ตี เคาะ (Repose) 

     เป็นกรรมวิธีการสร้างสรรค์งานประติมากรรม โดยการนำวัสดุโลหะมาข้ึนรูปตามต้องการให้เป็นรูป3มิติ 

5)การเชื่อม ปะ ต่อ (Welding) 

     เป็นกรรมวิธีการสร้างสรรค์ โดยการนำวัสดุที่มีรูปร่าง รูปทรงต่างๆ หลายชิ้น มาประกอบเข้าดว้ยกัน โดยผ่านการเชื่อมโลหะ หรือบัดกรีให้วัสดุแต่ละชิ้นยึดติดกันได้

 งานทัศนศิลป์ในการโฆษณา

     การโฆษณา เป้าหมายของการโฆษณา คือการจูงใจเพื่อให้เกิดความสนใจ ความต้องการในสินค้าและบริการนั้น เป็นการประกาศสินคา้หรือบริการให้ประชาชนโดยทั่ว ไปทราบ เป็นเครื่องมือสื่อสารทางการตลาดเพื่อบอกกล่าวให้ผู้บริโภครู้สึกถึงคุณค่าและความแตกต่างรู้จักและก่อให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้าหรือใช้บริการนั้น ในอดีตการเริ่มต้นของการโฆษณาจะเป็นลักษณะของการร้องป่าวประกาศเชิญชวนปัจจุบันทำโดยเผยแพร่งานโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์สื่อโทรทัศน์สื่อวิทยุเป็นต้น